บทความโดย อุดม ลิขิตวรรณวุฒิ
การวิเคราะห์มรณบัตร (death certificate) โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) ของสหรัฐอเมริกาแสดงว่าอาการป่วยเรื้อรังต่างๆหลังจากเป็นโควิด-19 ทำให้ตายได้ถึงแม้ว่าอัตราการตาย จากโควิดเรื้อรังจะต่ำกว่า 1% ของการตายที่เกี่ยวกับโควิด-19 ทั้งหมด (ประมาณ 1.1 ล้านคน) แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากคิดว่าอัตราดังกล่าวต่ำกว่าความเป็นจริงมาก
ข่าวใน The New York Times ระบุว่ารายงานโควิดยาว (long COVID) เป็นสาเหตุหรือมีส่วนทำให้คนเสียชีวิตอย่างน้อย 3,500 ราย1
รายงานผลการวิเคราะห์มรณบัตรโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565 เป็นการศึกษาระดับประเทศครั้งแรกว่าโควิดหรือคำที่เกี่ยวข้องถูกระบุอย่างเป็นทางการในมรณบัตรหรือไม่ ซึ่งถึงแม้ว่าผลของการตรวจสอบจะพบว่าวลีดังกล่าวจะเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นของมรณบัตรจำนวนกว่าหนึ่งล้านรายที่เชื่อมโยงกับการติดเชื้อไวรัส โคโรนา แต่นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆกล่าวว่าผลลัพธ์ดังกล่าวได้เสริมกับความรับรู้ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับปัญหาทางการแพทย์ที่รุนแรงที่เกิดขึ้นภายหลังการป่วยระยะยาวจากโควิด-19
การศึกษาดังกล่าวนำโดย เฟรีดา อาฮ์หมัด (Farida Ahmad) นักวิทยาศาสตร์สุขภาพจากศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติ (National Center for Health Statistics) ของซีดีซี (CDC) คุณอาฮ์หมัด กล่าวว่า คนส่วนมากคิดว่าโควิดยาวเป็นเรื่องของการเจ็บป่วยเรื้อรัง แต่การศึกษานี้แสดงว่าโควิดยาวอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเสียชีวิตได้
คุณอาฮ์หมัด กล่าวว่าการเสียชีวิตจากโควิดยาวไม่ได้เป็นหนึ่งในสาเหตุการตายอันดับต้นๆ แต่เมื่อคำนึงว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และโควิดยาวเป็นการเจ็บป่วยที่เราเรียนรู้มากขึ้นทุกวัน ประเด็นสำคัญที่ได้จากการศึกษานี้คือ เป็นไปได้ที่บางคนจะเสียชีวิตและโควิดยาวมีส่วนในการตายของคนเหล่านั้น
โควิดยาวเป็นกลุ่มอาการที่ซับซ้อนซึ่งอาจเป็นนานหลายเดือนหรือนานกว่านั้น และอาจส่งผลต่อระบบอวัยวะแทบทุกระบบ อาการบางอย่างที่เกิดหลังจากการติดเชื้อตอนแรกและที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมที่สุดได้แก่ ปัญหาการหายใจ ความเหนื่อย ล้าอย่างมาก และปัญหาต่างๆเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจและระบบประสาท
ในการศึกษานี้เป็นการตรวจสอบมรณบัตรจากทุกรัฐและกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เดือนมกราคม คศ. 2020 ถึงเดือน มิถุนายน คศ. 2020 และพบว่ามรณบัตรจำนวน 1,021,487 มีรหัสการวินิจฉัยโรคโควิด-19 ว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต หรือมีส่วนทำให้เสียชีวิต ในจำนวนนั้น 3,544 รายหรือ 0.3 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดระบุโควิดยาวหรือวลีต่างๆ เช่น อาการหลังโควิด โควิดเรื้อรัง หรือโควิดระยะยาว
คุณอาฮ์หมัด และผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษานี้กล่าวว่าจำนวนการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิดยาวในการศึกษานี้ค่อนข้างที่จะเป็นการประเมินที่ต่ำไปอย่างแน่นอน เพราะโควิดยาวนั้นต้องให้เวลาผ่านไปพอสมควรก่อนที่แพทย์และผู้ให้บริการทางการแพทย์อื่นๆจะตระหนักและระบุได้ว่าเป็นโควิดยาว และนักวิจัยกล่าวว่าการศึกษานี้ไม่สามารถรวมรหัสใหม่ สำหรับวินิจฉัยโควิดยาวได้เพราะในช่วงเวลาการศึกษานั้นรหัสดังกล่าวยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ในการรายงานการเสียชีวิตใน สหรัฐอเมริกา
ในการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของ The New York Times นพ. เจฟฟรีย์ มาร์ติน (Dr. Jeffrey Martin) หัวหน้าแผนกระบาดวิทยาทางคลินิก ภาควิชาระบาดวิทยาและชีวสถิติแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การศึกษานี้กล่าวว่างานวิจัยชิ้นใหม่นี้มีความสำคัญในการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ และการศึกษานี้ควรต้องตามด้วยการวิจัยที่แน่นอนมากขึ้น
นพ. มาร์ติน อธิบายว่าตามประวัติศาสตร์แล้ว มรณบัตรไม่สามารถอธิบายได้ว่าคนๆหนึ่งเสียชีวิตอย่างไร และแนะนำว่าการวิจัยในอนาคตควรรวมถึงการสัมภาษณ์แพทย์ของผู้ป่วยและสมาชิกในครอบครัว และทำการประเมินประวัติการ รักษาของคนไข้เหล่านั้น
คุณอาฮ์หมัดเอ่ยว่าผลการศึกษาพบว่ามรณบัตรจำนวนมากกล่าวถึงโควิดยาวหลังปี 2020 และมีแนวโน้มว่าอาการดังกล่าว จะถูกระบุในมรณบัตรเมื่อยอดสูงสุดของผู้ป่วยโควิดผ่านไปแล้วเป็นเวลาหลายอาทิตย์หรือหลายเดือน
การศึกษาพบว่ารูปแบบบางอย่างของโควิดยาวเกี่ยวข้องกับอายุ เพศ เชื้อชาติ และชาติพันธุ์ ซึ่งแตกต่างไปจากที่พบจาก การเสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อตอนต้น ตัวอย่างเช่น ในขณะที่คนผิวดำและคนเชื้อชาติลาตินอเมริกันมีอัตราการเสีย ชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในระยะแรกของการระบาดสูงกว่าคนผิวขาวที่ไม่ใช่ชาวลาตินอเมริกัน แต่ในกรณีของโค วิดยาวกลุ่มคนเหล่านั้นไม่ได้มีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าคนผิวขาว
นักวิจัยเสนอว่าความแตกต่างนี้ส่วนหนึ่งอาจเนื่องมาจากความเหลื่อมล้ำทางระบบที่ส่งผลให้ผู้ป่วยที่เป็นคนผิวดำและคน ลาตินอเมริกันเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้น้อยกว่าคนผิวขาวทำให้พวกเขาอาจไม่ได้รับการวินิจฉัยโรคโควิดยาวที่เหมาะสม การศึกษายังระบุด้วยว่าเนื่องจากผู้ป่วยผิวดำและลาตินอเมริกันเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยตอนแรกในอัตราที่มากกว่าผู้ป่วย ผิวขาวจึงอาจมีคนกลุ่มนี้ที่รอดชีวิตจากโควิด-19 และเป็นโควิดยาวในเวลาต่อมาในจำนวนที่น้อยกว่า
เกือบ 57 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิดยาวเป็นผู้ที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป เกือบหนึ่งในสามของมรณบัตรที่กล่าวถึงโควิดยาวระบุว่าสาเหตุหลักของการเสียชีวิตเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ใช่โควิด เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง หรืออัลไซเมอร์
ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแสดงว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโควิดยาวมากกว่าผู้ชาย แต่การศึกษานี้แสดงว่าผู้เสียชีวิตจากโควิดยาวที่เป็นผู้ชายมีมากกว่าผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิงเล็กน้อย (51.5% กับ 48.5%) และข้อมูลของศูนย์ควบคุม
และป้องกันโรคยังแสดงว่า 7.5% ของประชากรของสหรัฐอเมริกา หรือผู้ใหญ่ 1 ใน 13 คนมีอาการเรื้อรังเป็นเวลาถึงสามเดือนหรือยาวกว่าหลังจากการติดเชื้อ นอกจากผลกระทบทางสุขภาพแล้ว โควิดยาวเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้คนไม่สามารถทำงานได้ การสำรวจโดยสถาบันบรู๊คกิงส์ (Brookings Institute) ระบุว่าโควิดยาวทำให้เกิดการว่างงานถึง 15% และอาจ ชทำให้คนจำนวนถึง 4 ล้านคนไม่สามารถทำงานได้2
ดร. เดวิด ปูตริโน (Dr. David Putrino) ผู้อำนวยการAายนวัตกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพของระบบสุขภาพเมาท์ไซนาย (Mount Sinai Health System) ในเมืองนิวยอร์กและไม่มีความเกี่ยวข้องกับการวิจัยนี้กล่าวว่าการศึกษาผู้เสียชีวิตจากโควิดยาวโครงการนี้เป็นเพียงการศึกษาครั้งแรกเท่านั้นที่แตะแต่เพียงผิวของปัญหาเท่านั้น
ดร. ปูตริโน เสริมว่าการศึกษานี้ใช้การเสียชีวิตของผู้ที่ป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในตอนต้นเป็นหลัก และผู้ที่ รอดชีวิตจากระยะนั้นแต่ต่อมาเกิดการเจ็บป่วยที่ทำให้อวัยวะต่างๆเสียหายและเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอื่นๆ เขากล่าวว่าการเสียชีวิตอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับโควิดยาวรวมถึงการเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายของผู้ที่มีอาการหลังโควิดที่ร้ายแรงควรได้รับการศึกษาด้วย
กลุ่มรณรงค์สำหรับผู้ป่วยหลายกลุ่มทำการบันทึกกรณีฆ่าตัวตายที่เชื่อว่าโควิดยาวเกี่ยวข้องด้วย นักรณรงค์คนหนึ่งอธิบาย กับผู้สื่อข่าวของ The Washington Post ว่าเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพส่วนมากไม่คุ้นเคยกับโควิดยาว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ผู้ชันสูตรศพที่ไม่คุ้นเคยกับโควิดยาวจะใส่รหัสการเสียชีวิตจากโควิดยาวได้ถูกต้อง และกล่าวว่าจากประสบการณ์ของเธอ นั้นแทบทุกอาทิตย์จะมีกรณีฆ่าตัวตายที่เกี่ยวกับโควิดยาว แต่เธอไม่เคยพบว่ากรณีเหล่านั้นถูกบันทึกอย่างเป็นทางการ ว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเป็นเพราะโควิดยาว (หมายเหตุ 2)
รายงานอีกฉบับหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ 14 ธันวาคมเช่นกันเป็นการวิจัยโดยโครงการบันทึกโควิด-19 รายงานนี้เสนอ ภาพรวมของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิดยาวด้วยการวิเคราะห์มรณบัตรของรัฐมินนิโซตา นิวเม็กซิโก และสถานที่อื่นๆ อีกสองสามแห่ง ในปี 2020 และ 2021 รายงานดังกล่าวดำเนินการโดยสถาบันเบราน์เพื่อนวัตกรรมสื่อ (Brown Institute for Media Innovation) ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และมัคร็อค (MuckRock) ซึ่งเป็นมูลนิธิบันทึกสาธารณะพบว่าใน 18 ราย
จาก 28 รายที่เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิดยาวในมินนิโซตาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 80 ปี และส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยทำงานรับจ้างทั่วไปและขาดวุฒิการศึกษาระดับวิทยาลัยในรัฐนิวเม็กซิโก ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิต 13 รายที่เกี่ยวข้องกับโควิดยาวเป็นผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี และบางส่วนเป็นผู้ที่ทำงานแนวหน้าหรืองานที่จำเป็น
ผู้เชี่ยวชาญที่ประเมินผลการศึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเตือนว่าการศึกษาดังกล่าวไม่ได้เสนอทั้งภาพที่สมบูรณ์ ของการตายที่เชื่อมโยงกับโควิดยาวและจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดยาวที่มีมากกว่านี้ ซึ่งจากการประเมินโดยสำนักงานความรับผิดชอบของรัฐบาล (Government Accountability Office) ระบุว่าโควิดยาวมีผลกระทบต่อคนจำนวน 7.7 ล้านถึง 23 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา
ดร. ปูตริโน เน้นว่าเรื่องเรื่องสำคัญที่จะต้องได้รับการสำรวจและศึกษา และไม่ควรหยิบเอาผลการศึกษานี้มาเป็นข้ออ้างโดย กล่าวว่าโควิดยาวไม่ใช่เรื่องที่รุนแรงมากนักเพราะมีผู้เสียชีวิตเพียงไม่กี่รายและจะต้องไม่ประเมินความเสียหายที่เกิดจาก โควิดยาวด้วยการเสียชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว
คุณอาฮ์หมัด ตั้งข้อสังเกตว่าถึงแม้ว่าจะมีแนวทางที่เป็นมาตราฐานในการกรอกมรณบัตร แต่ในปี 2020 โควิดยาวยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แม้แต่ในด้านคลินิกในช่วงเวลาดังกล่าวการนิยามและวินิจฉัยโควิดยาวก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ ทำให้การบันทึกมรณบัตรเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับผู้บันทึกแต่ละคน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะทบทวนสาเหตุการเสียชีวิตในช่วงน้ันที่มีสาเหตุจากโควิดยาวได้อย่างแม่นยำ และหมายความว่าจำนวนการเสียชีวิตจากโควิดยาวของการศึกษานี้ย่อมต่ำกว่าความเป็นจริง คุณอาฮ์หมัด เน้นว่าการศึกษานี้ใช้ข้อมูลเฉพาะกาลที่เปลี่ยนไปได้ (provisional data) ดังนั้นจำนวนการเสียชีวิตเนื่องจากโควิดยาวอาจจะเพิ่มขึ้นอีกได้3
___________________
1 Long Covid Has Played Role in More Than 3,500 Deaths in US, CDC Says – The New York Times โดย Pam Belluck เมื่อ 14 ธันวาคม 2565 ใน https://www.nytimes.com/2022/12/14/health/long-covid-deaths.html
2 Long covid can be deadly, new CDC study finds – The Washington Post โดย Frances Stead Sellers เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ใน https://www.washingtonpost.com/health/2022/12/14/long-covid-deaths/
3 Long COVID Contributed to Thousands of Deaths, CDC Says | MedPage Today โดย Michael DePeau-Wilson เมื่อ 15 ธันวาคม 2565 ใน https://www.medpagetoday.com/infectiousdisease/longcovid/102245