การเปิดตัวขยายผลแบบ “ห้าวหาญ” ของยาป้องกันเอชไอวีแบบฉีดมีฤทธิ์ยาวนานในอาฟริกา

อุดม ลิขิตวรรณวุฒิ แปล

หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีแผนที่ทำให้ยาฉีดราคาไม่แพงมีใช้อย่างแพร่หลายสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง [1]

หน่วยการวิจัย SEARCH ในประเทศเคนยาที่เป็นหน่วยการวิจัยที่คัดเลือกผู้เข้าร่วมการวิจัยยาป้องกันเอชไอวีชนิดฉีดที่ออกฤทธิ์นาน (ภาพโดย SEARCH ใน Science)

 
 

เครื่องมือต่าง ๆในการต่อสู้กับเอชไอวีนั้นมักจะมาช้าในซับซาฮาราอาฟริกา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด หนักที่สุด หลังจากที่ค็อกเทลของยาต้านไวรัสเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพและสามารถช่วยชีวิตคนได้มีใช้อย่างแพร่หลายใน ประเทศทต่างๆในปีคศ. 1996 ยังต้องใช้เวลาถึง 7 ปีก่อนที่ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ร่วมกับไวรัสในซับซาฮาราอาฟริกาจะได้ เริ่มใช้ยา แม้แต่ยาเม็ดที่ใช้เพื่อป้องกันเอชไอวี (แทนที่จะใช้เพื่อรักษาโรค) ได้ถูกนำมาใช้ในปีคศ. 2012 ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ เรียกว่าการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ (หรือเพร็พ) ทวีปอาฟริกาก็ยังได้รับประโยชน์ช้ากว่าภูมิภาคอื่น ๆ อีกเช่นเคย

แต่การปฏิวัติในการป้องกันเอชไอวีครั้งต่อไปซึ่งเป็นเพร็พแบบฉีดและที่มีฤทธิ์ยาวนานนั้น ชาวอาฟริกันอาจเป็นผู้นำในการ เปลี่ยนแปลงนี้ภายในเร็ว ๆ นี้ ส่วนในประเทศร่ำรวยมีคนจำนวนไม่มากนักที่เริ่มใช้เพร็พสูตรนี้เพราะว่าส่วนใหญ่มีปัญหากับ ประกันสุขภาพที่ยุ่งยากสำหรับยาราคาแพง แต่ขณะนี้เพร็พแบบฉีดกำลังใกล้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอาฟริกาซึ่งต้อง ขอบคุณแผนการฉุกเฉินของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเพื่อบรรเทาปัญหาเอดส์ (หรือ PEPFAR) ซึ่งเป็นโครงการของ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่จัดซื้อยาดังกล่าวในราคาที่ลดลงเป็นอย่างมาก

“ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า เราจะเห็นการใช้เพร็พแบบฉีดในภาคตะวันออกและภาคใต้ของอาฟริกามากกว่าที่เราจะได้เห็นใน สหรัฐอเมริกา” มิทแชล วอร์เร็น ( Mitchell Warren) หัวหน้าองค์การเอแวค (AVAC) ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนแนะนำการป้อง กันเอชไอวีคาดการณ์ว่า “นั่นคือการพลิกประวัติศาสตร์จากการเป็นผู้ตามกลายเป็นผู้นำ”

จอห์น นเคนกาซอง (John Nkengasong) หัวหน้าเพ็พฟาร์ (PEPFAR) อธิบายว่าเพ็พฟาร์ได้จัดหาเพร็พแบบฉีดจำนวน 24,000 โด๊สสำหรับใช้ในประเทศแซมเบีย ซิมบับเว และมาลาวี ภายในวันที่ 6 มีนาคม และมีแผนสำหรับ “การขยาย ปริมาณเชิงรุก” และเสริมว่า “ยานี้มีศักยภาพที่จะลดการติดเอชไอวีรายใหม่ซึ่งมีจำนวนปีละ 1.3 ล้านรายทั่วโลก” แต่ความ พร้อมใช้งานและต้นทุนของเพร็พแบบฉีด “ยังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก” และอาจไม่เป็นไปตามแผน (การระดม ทุนในอนาคตของเพ็พฟาร์ยังไม่แน่นอน แต่ในการเจรจาต่อรองในรัฐสภาสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตกลงที่จะขยาย เวลาไปจนถึงเดือนมีนาคม คศ. 2025)

ในตอนแรกเพร็พได้รับการพิสูจน์แล้วว่าคุ้มค่าสำหรับยาเม็ดแบบรายวันที่ผลิตโดยบริษัทกิเลียด (Gilead) ซึ่งจะได้ผลก็ต่อ เมื่อผู้คนกินยาเป็นประจำ ซึ่งหลายคนพบว่าทำได้ยาก แต่เพร็พแบบฉีดออกฤทธิ์นานที่ผลิตโดยบริษัทยาวีฟ เฮลธ์แคร์ (ViiV Healthcare) ประกอบด้วยยาต้านไวรัสคาโบเทกราเวียร์ (cabotegravir) หรือ แค็บ-แอลเอ (CAB-LA) ซึ่งในการฉีด หนึ่งครั้งทุก ๆ 2 เดือนก็เพียงพอแล้ว การวิจัยระดับนานาชาติขนาดใหญ่ที่รวมผู้เข้าร่วมการวิจัยจากหลายประเทศแสดงให้ เห็นว่ายานี้มีประสิทธิภาพดีกว่าเพร็พแบบกินในชายมีเพศสัมพันธ์กับชายและหญิงข้ามเพศ และในผู้หญิงจากการวิจัยอีก โครงการหนึ่งต่างหากที่ทำในทวีปอาฟริกา องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาอนุมัติยาแค็บ-แอลเอ ในเดือน ธันวาคม คศ. 2021 และคณะกรรมาธิการยาของสหภาพยุโรปได้อนุมัติเมื่อเดือนกันยายน คศ. 2023 ส่วนยาฉีดออกฤทธิ์ ยาวชนิดอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์นาน 4 หรือ 6 เดือนยังอยู่ในระหว่างการวิจัย

แต่ในสหรัฐอเมริกา ยาแค็บ-แอลเอ มีราคาสูงกว่า 23,000 เหรียญสหรัฐต่อปี (844,100 บาท) สำหรับฉีดทุก 2 เดือน ผู้ใช้ บริการและผู้ให้บริการด้านสุขภาพประสบกับปัญหาในการให้บริษัทประกันสุขภาพจ่ายค่ายาฉีด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ายา เม็ดเพร็พซึ่งปัจจุบันเป็นยาสามัญมีจำหน่ายโดยบริษัททั่วไปมีราคาเพียง 300 ดอลลาร์ (11,013 บาท) ต่อปี ซึ่งบริษัทวีฟอ้าง ว่าเป็นผลทำให้มีเพียง 11,000 คนในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มใช้ยาแค็บ-แอลเอ ภายในสิ้นปีคศ. 2023

บริษัทวีฟถูกโจมตีหนักโดยนักเคลื่อนไหวในปีคศ. 2022 ที่ไม่ทำให้ยาแค็บ-แอลเอมีจำหน่ายในราคาถูกในอาฟริกา แต่ บริษัทเน้นย้ำว่ามีความมุ่งมั่นที่จะขายยาแค็บ-แอลเอในราคา “ที่ไม่แสวงหาผลกำไร” ในประเทศที่มีรายได้น้อย จนกว่าจะมี ยาชนิดสามัญวางจำหน่าย วีฟกล่าวในแถลงข่าวต่อไซอันซ์ (Science) ว่า “เราพยายามทำให้ผู้ที่ต้องการยาสามารถเข้าถึง ยาของเราได้อย่างกว้างขวาง โดยไม่คำนึงถึงรายได้ หรือพื้นที่ที่พวกเขาอยู่อาศัย และที่ผลักดันโดยความต้องการด้าน สาธารณสุข” แต่เพ็พฟาร์จ่ายเพียง 30 ดอลลาร์ (1,102 บาท) ต่อโด๊สต่อ 2 เดือน หรือ 180 ดอลลาร์ (6,608 บาท) ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเพร็พในรูปแบบวงแหวนใส่ช่องคลอดซึ่งใช้งานได้นาน 1 เดือน และเพ็พฟาร์จ่าย 13 ดอลลาร์ (477 บาท) ต่อ ชิ้น

การวิจัยในยูกันดาและเคนยาซึ่งนำเสนอในการประชุมวิชาการเกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ของสหรัฐอเมริกาในเดือนนี้เสนอว่า ถ้าให้เเลือก ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเอชไอวีเลือกแค็บ-แอลเอ มากกว่าเพร็พแบบกิน การที่มีทางเลือกทำให้การใช้ เพร็พ โดยรวมเพิ่มขึ้น “ยาเพร็พแบบฉีดได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก” โมเสส คัมญา (Moses Kamya) นักระบาดวิทยาจาก มหาวิทยาลัยมาเคเรเร (Makerere University) ซึ่งเป็นผู้นำเสนอผลการวิจัยกล่าว “ไม่ใช่เป็นเพียงการแทนที่เพร็พแบบกิน เท่านั้น” เขากล่าวเสริม “มันขยายการมีเครื่องมือป้องกันต่าง ๆ ให้กว้างขึ้น”

บริษัทวีฟจะมียาแค็บ-แอลเออย่างน้อย 1.2 ล้านโด๊สสำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางจนถึงปีคศ. 2025 และ ประมาณ 30% ของจำนวนดังกล่าวจะถูกส่งไปยังเพ็พฟาร์ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดในซับซาฮาราอาฟริกาที่สั่งซื้อ ยาดังกล่าวด้วยเงินของตนเอง ลินดา-เกล เบกเกอร์ (Linda-Gail Bekker) ผู้บริหารศูนย์เอชไอวีอนุสรณ์เดสมอนด์ ทูทู (Desmond Tutu HIV Center at the University of Cape Town) ที่มหาวิทยาลัยเคปทาวน์กล่าวว่าในอาฟริกาใต้ ซึ่งมีผู้มีเอช ไอวีมากที่สุดในโลกและซื้อเพร็พแบบกินมากกว่าประเทศใด ๆ การวิเคราะห์การลงทุนที่ตีพิมพ์ในเดือนธันวาคม คศ. 2023 สรุปว่าแค็บ-แอลเอ จะไม่คุ้มทุน แม้ว่าจะลดราคาแล้วก็ตาม “ผู้วิเคราะห์คิดว่าการฉีดยานั้นไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป” เบกเกอร์ กล่าวเธอรู้สึกยินดีที่อย่างน้อยเพ็พฟาร์จะเริ่มให้บริการยาฉีดแค็บ-แอลเอในอาฟริกาใต้ในเร็ว ๆ นี้

สำหรับการนำมาใช้ในวงกว้างนั้น ลินดา-เกล เบกเกอร์ และคนอื่นๆบอกว่าราคาจะต้องลดลงอีก บริษัทวีฟได้ลงนามข้อ ตกลงโดยสมัครใจอนุญาตให้กลุ่มสิทธิบัตรยาสามารถผลิตยาสามัญได้ ซึ่งช่วยให้สามารถทำข้อตกลงกับบริษัทต่าง ๆ ที่ สามารถผลิตยาได้ในราคาถูกลง ผู้ผลิตยาสามัญสามรายได้รับใบอนุญาตให้ใช้สิทธินี้ แต่วอร์เร็นประเมินว่าจะใช้เวลา อย่างน้อย 2 ปีจึงจะสามารถส่งมอบยาได้ ก่อนอื่นต้องพิสูจน์ว่ายาสามัญใช้ได้ผลพอ ๆ กับยาต้นแบบของบริษัทวีฟ แต่ราคา คงจะไม่ถูกเท่ายาเม็ด เนื่องจากในการผลิตเพร็พแบบฉีดนั้นซับซ้อนกว่า

วอร์เร็นมองในแง่ดีว่าหากเข้าถึงเพร็พแบบฉีดได้ในอาฟริกา ในที่สุดเพร็พก็จะกลายเป็นที่นิยม แต่เขาเน้นย้ำเพร็พแบบเม็ด และแหวนใส่ช่องคลอดยังคงมีอยู่เช่นกัน “ไม่มีสิ่งที่ ‘ดีกว่า’ เพร็พอีกต่อไป” วอร์เร็นกล่าวว่า “แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ตอนนี้คุณสามารถพูดได้ว่า ‘เรามาคุยกันถึงทางเลือกต่าง ๆ เหล่านี้กันดีกว่า’”

_________________________________________________________

[1] จาก Long-lasting, injectable HIV prevention drug set for “aggressive” roll-out in Africa. โดย Jon Cohen เมื่อ 24 มีนาคม 2567 ใน https:// www.science.org/content/article/long-lasting-injectable-hiv-prevention-drug-set-aggressive-roll-out-africa