บทความโดย อุดม ลิขิตวรรณวุฒิ
ยาต้านไวรัสเอชไอวีสูตรผสมทีแอลดี (TLD) [1] อาจได้รับการปรับปรุงให้เป็นยาสำหรับฉีดเข้าใต้ผิวหนังเดือนละครั้ง
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันในซีแอตเทิลกล่าวว่าทีมสามารถฟันฝ่าอุปสรรคในการพัฒนายาต้านไวรัสชนิดฉีดที่ออกฤทธิ์นานสำหรับยาต้านไวรัสสูตรที่ใช้มากที่สุดในโลกซึ่งเป็นยาที่รวมยาเทนอฟโฟเวียร์ ไดโซฟร็อกซิล ฟิวเมอเรท ลา-มิวูดีน และโดลุเทกราเวียร์ (tenofovir disoproxil fumarate, lamivudine และ dolutegravir) เข้าไว้ในเม็ดเดียวกันหรือที่รู้จักกันในชื่อ ทีแอลดี (TLD) แต่ข้อเสียคือสูตรที่ออกฤทธิ์นานนั้นคือยาจะอยู่ได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น
ศาสตราจารย์ร็อดนีย์ โฮ (Professor Rodney Ho) และเพื่อนร่วมงานรายงานการค้นพบในวารสารเอดส์ (AIDS) ซึ่งอธิบายว่าพวกเขาสามารถผสมยาสองชนิดที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันคือยาชนิดที่ละลายน้ำได้และยาชนิดที่ไม่ละลายน้ำไว้ในสูตรเดียวโดยใช้เทคนิคที่เรียกว่าเทคโนโลยีอนุภาคนาโนสำหรับผสมยา
บริษัทยาหลายบริษัทกำลังพัฒนาการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่ออกฤทธิ์ยาวนานเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับวินัยในกินยาที่ไม่ดีและความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการต้องกินยาเป็นเวลานาน
การรักษาเอชไอวีด้วยยาต้านไวรัสชนิดฉีดที่ออกฤทธิ์นานชนิดแรกคือยาแคบเบนูวา (Cabenuva) หรือที่รู้จักกันในยุโรปในชื่อ โวคาเบรีย (Vocabria) และ รีแคมบีส (Rekambys) ซึ่งมีส่วนผสมของยาคาโบเทกราเวียร์ (cabotegravir) ซึ่งเป็นยาที่ยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัส และยาริลพิวิรีน (rilpivirine) ซึ่งเป็นตัวยับยั้งการถอดรหัสย้อนกลับของไวรัส ยาทั้งสองเป็นยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อซึ่งต้องฉีดเดือนละครั้งหรือทุกๆสองเดือน
ยาคาโบเทกราเวียร์และริลพิวิรีนแบบฉีดได้รับการอนุมัติในประเทศที่มีรายได้สูงหลายประเทศ รวมถึงในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชียตะวันออก นอกจากนี้ยาฉีดคาโบเทกราเวียร์ยังได้รับใบอนุญาตจากกลุ่มสิทธิบัตรยาเพื่อการพัฒนาเป็นเพร็พสำหรับป้องกันเอชไอวีโดยบริษัทผลิตยาสามัญเพื่อจำหน่ายในประเทศที่มีรายได้น้อย แต่ริลพิวิรีนยังไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในกลุ่มสิทธิบัตรยาฯ ดังนั้นบริษัทผลิตยาสามัญจึงไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนายาชนิดฉีดสองตัวสำหรับการรักษา จนกว่าสิทธิบัตรยาแบบฉีดจะหมดลงในปีคศ. 2026/2027
ยาต้านไวรัสอีกชนิดหนึ่งคือ ยาเลนาคาพาเวียร์ (lenacapavir) หรือ ซันเลนคา (Sunlenca) ซึ่งเป็นตัวยับยั้งเปลือกโปรตีนชั้นนอก (capsid) ของเอชไอวีกำลังได้รับการพัฒนาเป็นการรักษาแบบฉีดที่ออกฤทธิ์นานซึ่งสามารถให้ทุกๆหกเดือน บริษัทผู้ผลิต (Gilead Sciences) กำลังทำการศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรวมเลนาคาพาเวียร์เข้ากับแอนติบอดีที่ออกฤทธิ์นาน (long-acting broadly neutralizing antibodies) อีกสองตัว
บริษัทยาวีฟเฮลธแคร์ (ViiV Healthcare) และเมอร์คกำลังศึกษายาต้านไวรัสตัวใหม่ๆว่าจะมีศักยภาพเพื่อใช้ในการรักษาที่ออกฤทธิ์นานได้ แต่ยาเหล่านั้นก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา
ในขณะนี้ยังไม่มีการรักษาเอชไอวีที่มีฤทธิ์นานใดใดใช้ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางซึ่งมีผู้ที่มีเอชไอวีอยู่มากที่สุด การพัฒนายารักษาแบบฉีดที่ออกฤทธิ์นานที่มีต้นทุนต่ำและราคาไม่แพงสำหรับใช้ในประเทศเหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้มีเอชไอวีจำนวนมากที่ประสบปัญหาในการกินยาเม็ดทุกวันได้
องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้ยาเทนอฟโฟเวียร์ ไดโซฟร็อกซิล ฟิวเมอเรท ลามิวูดีน และโดลุเทกราเวีย เป็นทางเลือกแรกสำหรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ในเดือนสิงหาคมของปีนี้ (คศ. 2023) กองทุนเอดส์โลก (Global Fund) กล่าวว่าสามารถจัดหายาสูตรผสมนี้ได้ในราคา 45 ดอลลาร์สหรัฐ (1,666 บาท) ต่อปีสำหรับผู้ได้รับทุนของกองทุน โครงการความริเริ่มเพื่อการเข้าถึงสุขภาพของคลินตัน (Clinton Health Access Initiative) กล่าวว่าผู้คน 19 ล้านคนทั่วโลกได้ใช้ยาสูตรผสมนี้อยู่
การใช้ยาฉีดสูตรผสมดังกล่าวอย่างแพร่หลายนี้จะช่วยให้ต้นทุนการผลิตของยาต้านไวรัสทั้งสามชนิดต่ำลง รวมถึงข้อดีท่ีว่าผู้ให้บริการของระบบสุขภาพมีความคุ้นเคยเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นของยานี้อยู่แล้ว
กลุ่มพัฒนาสูตรยาต้านไวรัสที่ออกฤทธิ์นาน (TLC-ART) จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันได้พัฒนาตัวอย่างของยาเทนอฟโฟ-เวียร์ ไดโซฟร็อกซิล ฟิวเมอเรท ลามิวูดีน และโดลุเทกราเวียที่ได้รับจากผู้ผลิตยาสามัญให้เป็นสูตรแบบฉีดได้โดยใช้เทคโนโลยีอนุภาคนาโนที่ผสมผสานยาทั้งสามนี้
อนุภาคนาโนมีขนาดเพียงไม่กี่อะตอม อนุภาคเหล่านี้เมื่อประกอบกันเป็นโครงสร้างนาโนจะมีคุณสมบัติช่วยให้ยาไม่ถูกทำลายหรือถูกย่อยสลายในตับและคงอยู่ในกระแสเลือดได้นาน นอกจากนี้นาโนเทคโนโลยียังสามารถนำส่งยาชนิดฉีดที่ละลายน้ำได้ไม่ดี และช่วยเป็นพาหะในการนำส่งยาไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เจาะจงได้
ทีมวิจัยได้ทำการทดสอบสูตรยาผสมสามชนิดแบบอนุภาคนาโนในลิง 5 ตัว และในกลุ่มควบคุมลิง 2 ตัวได้รับการฉีดยาทั้งสามชนิดที่ละลายในของเหลวแต่ไม่ใช่อนุภาคนาโน ทีมวิจัยเก็บตัวอย่างเลือดตามช่วงเวลาสม่ำเสมอเป็นเวลาสี่สัปดาห์และแยกเซลล์โมโนนิวเคลียร์ในกระแสเลือดส่วนปลายเพื่อตรวจวัดปริมาณยา
การตรวจวัดความเข้มข้นของยาในพลาสมาพบว่าในวันแรกหลังการให้ยา กลุ่มยาผสมอนุภาคนาโนมีระดับยาสูงสุดไม่แตกต่างจากกลุ่มควบคุมที่ได้รับแต่ยาผสมอย่างเดียว ในขณะที่ระดับยาในพลาสมาของยาที่ไม่ใช่สูตรผสมนาโนต่ำไม่สามารถตรวจพบได้ภายในสามวัน แต่ยาสูตรอนุภาคนาโนยังคงอยู่สูงเหนือระดับเป้าหมายความเข้มข้นของยา (IC90) เป็นเวลาอย่างน้อยสี่สัปดาห์
ทีมวิจัยยังพบว่าความเข้มข้นของยาสูตรอนุภาคนาโนแต่ละตัวในเซลล์สูงกว่าในพลาสมา และความเข้มข้นของยาแต่ละตัวในเซลล์ 7 วันหลังการให้ยามีระดับสูงกว่า 2 วันหลังการให้ยา
ผู้เขียนรายงานผลของการวิจัยกล่าวว่าความเข้มข้นของยาที่อยู่ในระดับสูงพอนี้อาจนำไปสู่การฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังที่สามารถทำได้ทุกเดือน และอาจเป็นไปได้สำหรับการฉีดยาด้วยตนเอง แม้ว่าผลที่ได้จะน้อยกว่าตารางการฉีดยาทุกสองเดือนของยาผสมคาโบเทกราเวียร์/ริลพิวิรีนก็ตาม แต่ทีมวิจัยชี้ให้เห็นว่าระดับความเข้มข้นของยาที่ขึ้นสูงอย่างรวดเร็วภายหลังการฉีดที่สังเกตได้ในการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องกินยาเป็นเวลาหนึ่งเดือนนำก่อนเพื่อรักษาระดับยาของคาโบเทกราเวียร์และริลพิวิรีนให้เสถียร
แต่การรักษาแบบฉีดรายเดือนทำให้ตระหนักถึงการท้าทายในการให้บริการของระบบสุขภาพ ตั้งแต่ปีคศ. 2016 เป็นต้นมา มีการให้ความสำคัญกับการลดความถี่ในการมาคลินิกสำหรับผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่ได้ผลดีคงที่แล้วเพื่อให้คลินิกสามารถรับมือกับจำนวนผู้ที่รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่เพิ่มขึ้นในยุค “รักษาทุกคน” ได้ ผลิตภัณฑ์ยาฉีดหลายชนิดจำเป็นต้องขนส่งในตู้เก็บความเย็นและเก็บในตู้เย็นของสถานพยาบาล ในการประชุมสมาคมเอดส์นานาชาติด้านวิทยาศาสตร์เอชไอวีในปีนี้ ดร.แคโรลิน โบลตัน มัวร์ (Dr. Carolyn Bolton Moore) จากศูนย์วิจัยโรคติดเชื้อแห่งแซมเบีย เรียกร้องให้มีโครงการนำร่องเพื่อประเมินว่ายาต้านไวรัสแบบฉีดสามารถนำเข้าสู่ระบบสาธารณสุขในประเทศต่างๆ เช่น แซมเบียได้อย่างไร
การวิจัยยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสูตรนาโนของเทโนโฟเวียร์ในการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี (ให้ยาเทโนโฟเวียร์เพียงอย่างเดียวในการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีในผู้ที่ไม่มีเอชไอวี) จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลกในปีคศ. 2021 พบว่าผู้คน 26 ล้านคนทั่วโลกมีความจำเป็นเร่งด่วนในการรักษาโรคตับอักเสบบี และ 64 ล้านคนอาจมีสิทธิ์ได้รับการรักษาภายใต้แนวทางปัจจุบัน สูตรยาเทโนโฟเวียร์ชนิดฉีดที่ออกฤทธิ์นานซึ่งขจัดความจำเป็นในการกินยาทุกวันจะเป็นประโยชน์สำหรับคนจำนวนมากที่เป็นโรคตับอักเสบบี
_________________
[1] Long-acting injectable version of the most popular HIV drug combination is possible โดย Keith Alcorn เมื่อ 26 กันยายน 2566 ใน https://www.aidsmap.com/news/sep-2023/long-acting-injectable-version-most-popular-hiv-drug-combination-possible