บทความโดย อุดม ลิขิตวรรณวุฒิ
เมื่อการระบาดของฝีดาษลิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในหลายประเทศทั่วโลก ความต้องการฉีดวัคซีนจีนนีโอส (Jynneos) ซึ่งเป็นวัคซีนที่ได้รับอนุมัติเพื่อใช้ในการป้องกันฝีดาษลิงมีมากเกินกว่าจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ในคลังวัคซีนของแต่ละประเทศ และเกินศักยภาพของบริษัทผลิตวัคซีนที่จะตอบสนองความต้องการเร่งด่วนในขณะนี้ได้ [1]ทำให้เกิดแรงกดดันต่อรัฐบาลของประเทศ สหรัฐอเมริกาให้นำเอาวัคซีนอาแคม2000 (ACAM2000) มาอุดช่องว่างความขาดแคลนในขณะนี้
วัคซีนอาแคม2000 ได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาในปี 2007 เพื่อใช้ฉีดให้แก่คนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (smallpox) และมีหลักฐานพอประมาณที่แสดงว่าวัคซีนอาแคม2000 จะใช้ได้กับฝีดาษลิงเพราะเป็นไวรัสที่ใกล้เคียงกับไวรัสไข้ทรพิษ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พญ. เคทลิน ริเวอร์ส (Assistant Professor Caitlin Rivers) นักวิชาการอาวุโสและนักระบาดวิทยาจาก ศูนย์ความมั่นคงด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ (Johns Hopkins Center for Health Security) และรองผู้ อำนวยการก่อตั้งศูนย์พยากรณ์และวิเคราะห์การระบาด (the Center for Forecasting and Outbreak Analytics) ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา และ ศาสตราจารย์ นพ. ทอม อิงเกิลส์บี้ (Professor Tom Inglesby) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ และอดีตที่ปรึกษาอาวุโสของทีมแก้ปัญหาโควิด-19 ของประธานาธิบดีไบเดน มีความเห็นว่าการใช้วัคซีนอาแคม2000 จะต้องทำด้วยความรอบคอบ ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองร่วมกันเขียนบทความแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ใน STAT[2]

วัคซีนอาแคม2000 แตกต่างจากวัคซีนจีนนีโอสซึ่งเป็นวัคซีนไม่สามารถขยายตัวเพิ่มจำนวนได้ในร่างกายมนุษย์ วัคซีนอาแคม2000 ประกอบด้วยไวรัสวัคซิเนีย (vaccinia virus) ที่ยังมีชีวิตและสามารถขยายตัวเพิ่มได้ในร่างกายผู้ที่ได้รับฉีดวัคซีน ไวรัสวัคซิเนียเป็นไวรัสตระกูลพ็อก (pox family virus) ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสไข้ทรพิษแต่ไม่สามารถทำให้เกิดไข้ทรพิษได้และทำให้เกิดโรคที่อาการรุนแรงน้อยกว่าไข้ทรพิษ
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองเขียนว่าหากว่าบริเวณที่ได้รับฉีดวัคซีนอาแคม2000 ไม่ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมภายในช่วงเวลา สองถึงหกอาทิตย์ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บริเวณที่ได้รับฉีดวัคซีนจะหายเป็นปกติ ไวรัสวัคซิเนียอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้รวมถึงดวงตาและอวัยวะเพศ
ผู้เขียนย้ำว่าไม่ใช่แค่ผู้ได้รับฉีดวัคซีนเท่านั้นที่มีความเสี่ยงหลังการฉีดวัคซีนอาแคม2000 สมาชิกในครอบครัวและผู้อื่นที่อยู่ใกล้ชิดและมีการสัมผัสกับผู้ที่ได้รับฉีดวัคซีนก็มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสวัคซิเนียเช่นกัน ซึ่งความเสี่ยงนี้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับการระบาดของฝีดาษลิงในปัจจุบัน
ในปัจจุบันเกย์ ไบเซ็กชวล และชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อฝีดาษลิง นอกจากนั้นแล้วพวกเขา ยังได้รับผลกระทบจากเอชไอวีอย่างไม่สมสัดส่วนซึ่งสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่าง เหมาะสม แม้ว่าโอกาสที่ผู้ที่มีเอชไอวีจะได้รับฉีดวัคซีนอาแคม2000 จะต่ำมากก็ตามเนื่องจากความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่ พึงประสงค์จากวัคซีน แต่การถ่ายทอดไวรัสวัคซิเนียจากผู้ที่ได้รับฉีดวัคซีนไปยังผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องเป็นความ เสี่ยงที่ร้ายแรงเช่นกัน ความเสี่ยงอื่นๆของวัคซีนอาแคม2000 ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) หรือเยื่อหุ้มหัวใจ อักเสบ (pericarditis) ซึ่งเกิดขึ้นประมาณ 1 ในทุกๆ 175 คนที่ได้รับฉีดวัคซีนอาแคม2000 การแพร่ระบาดของวัคซิเนียก็อาจ เกิดขึ้นได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าอาการเกี่ยวกับหัวใจและการติดเชื้อไวรัสวัคซิเนียจะเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักก็ตาม แต่ทั้งสอง อาจรุนแรงถึงตายได้
ความเสี่ยงเหล่านี้สมเหตุสมผลในบริบทของไข้ทรพิษซึ่งแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าและมีความรุนแรงเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต มากกว่าฝีดาษลิง วัคซีนอาแคม2000 มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อไข้ทรพิษ และหากไข้ทรพิษกลับมาระบาด ใหม่อีกครั้งการฉีดวัคซีนอาแคม2000 จะเป็นประโยชน์ในการป้องกันการติดเชื้อมากกว่าความเสี่ยงของการฉีดวัคซีนอา แคม2000 แต่สำหรับโรคฝีดาษลิงนั้น สมดุลของความเสี่ยงและผลประโยชน์ไม่ค่อยดีนัก
หากความต้องการมีวัคซีนเพื่อต่อสู้กับฝีดาษลิงเพิ่มมากกว่าวัคซีนจีนนีโอสที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่อาจต้องหันไปใช้วัคซีนอา แคม2000 การตัดสินใจล่าสุดเพื่อยืดจำนวนวัคซีนจีนนีโอสที่มีสำรองไว้โดยอนุญาตให้ใช้วัคซีนในโด็สที่ต่ำกว่าอาจลดแรง กดดันในการใช้วัคซีนอาแคม2000 ได้ในระยะใกล้ แต่ถ้าการแพร่ระบาดยังคงเพิ่มมากขึ้นต่อไปการเรียกร้องให้ใช้วัคซีน อาแคม2000 อาจเพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดเป็นเรื่องที่จำเป็นในการควบคุมการระบาดในปัจจุบัน แต่ความเสี่ยงของ วัคซีนอาแคม2000 ทำให้จำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบมากขึ้น ก่อนที่จะนำเอาวัคซีนอาแคม2000 ไปใช้อย่าง แพร่หลาย องค์การอาหารและยาควรทบทวนหลักฐานที่มีอยู่เกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิผลในการป้องกันฝีดาษลิง และนำเสนอข้อค้นพบดังกล่าวต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและชีววัตถุที่เกี่ยวข้อง (Vaccines and Related Biological Products Advisory Committee หรือ เวอร์แพค – VRBPAC) หากผู้เชี่ยวชาญขององค์การอาหารและยาและเวอร์ แพคแนะนำให้ใช้วัคซีนอาแคม2000 คณะกรรมการที่ปรึกษาเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน (Advisory Committee on Immunization Practices หรือ ACIP) ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคควรประชุมเพื่อพิจารณาถึงวิธีการใช้งานที่เหมาะสม ต่อไป
การประเมินโดยคณะกรรมการทั้งสองนี้เป็นกระบวนการมาตรฐานในการออกใบอนุญาตสำหรับวัคซีนและการแนะนำให้ นำวัคซีนไปใช้ในการปฏิบัติงานทางคลินิก คณะกรรมการทั้งสองประกอบด้วยกรรมการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระและมี กระบวนการทำงานที่โปร่งใสเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นได้ แม้ว่ากระบวนการดังกล่าวจะไม่ จำเป็นสำหรับกรณีนี้ แต่การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านั้นจะทำให้เกิดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือต่อการ ตัดสินใจที่ยากและซับซ้อนเช่นนี้
การระบาดของฝีดาษลิงเป็นวิกฤตที่ร้ายแรงและเป็นวิกฤตที่ขยายกว้างออกไปอย่างรวดเร็วที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถ ควบคุมมันได้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรพิจารณาทางเลือกทั้งหมดในการปกป้องผู้ที่มีความเสี่ยงพร้อมไปกับการยุติการ แพร่ระบาดในประเทศ อย่างไรก็ตามผู้เขียนทั้งสองเชื่อว่าความเสี่ยงของวัคซีนอาแคม2000 นั้นรุนแรงเกินไปใน สถานการณ์ปัจจุบันเกินกว่าที่จะนำเอาวัคซีนนี้ไปใช้โดยไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญตามปกติเกี่ยวกับการใช้ วัคซีนใหม่ กระบวนการตรวจสอบที่ใช้อยู่โดยเวอร์แพค (VRBPAC) และเอซีไอพี (ACIP) สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ใน การตัดสินใจใช้วัคซีนอาแคม2000 เพื่อให้แน่ใจว่าความเสี่ยงและประโยชน์ของวัคซีนอาแคม2000 ถูกพิจารณาไตร่ตรอง อย่างรอบคอบก่อนที่จะเสนอวัคซีนนี้ให้แก่สาธารณชน
นอกจากผศ. ริเวอร์ส และ ศ. อิงเกิลส์บี้ ที่เตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการนำเอาวัคซีนอาแคม2000 มาใช้ในการระบาด ของฝีดาษลิงแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อหลายคนก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้วัคซีนอาแคม2000 รวมทั้งนพ. แอนโทนี ฟาวซิ (Dr. Anthony Fauci) ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา
ในการให้สัมภาษณ์กับพอดแคสต์ไซเอ็นซ วีเอส (podcast Sceince Vs) นพ. ฟาวซิ อธิบายว่าถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมี วัคซีนอาแคม2000 ในคลังวัคซีนเป็นจำนวนมาก (100 ล้านโด็ส) พร้อมที่จะนำไปใช้สำหรับป้องกันไข้ทรพิษก็ตาม แต่ สำหรับฝีดาษลิงนั้นไม่ควรที่จะนำเอาวัคซีนอาแคม2000 ไปใช้อย่างกว้างขวางเพื่อป้องกันการติดเชื้อฝีดาษลิงเพราะวัคซีนนี้ อาจเป็นอันตรายต่อคนบางกลุ่มที่มีโรคประจำตัวอยู่เช่นเด็กที่เป็นโรคผื่นแพ้อักเสบ (Eczema) คนที่ตั้งครรภ์ หรือคนที่มี ภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งรวมถึงผู้ที่มีเอชไอวีด้วย[3]
ในความพยายามที่จะฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิงให้แก่คนจำนวนมากที่สุด ในวันที่ 9 สิงหาคม 2565 รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ประกาศให้อำนาจแก่องค์การอาหารและยาให้อนุมัติการใช้วัคซีนจีนนีโอสสำหรับกรณีฉุกเฉินโดยการลดขนาดของวัคซีน ที่จะใช้ฉีดแต่ละครั้งลงและเป็นการใช้ฉีดเข้าในชั้นของผิวหนัง (intrademal vaccination) สำหรับคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้น ไป การฉีดวัคซีนเข้าในชั้นผิวหนังจะใช้วัคซีนเพียง 1 ใน 5 ของโด็สปกติเท่านั้น ซึ่งการฉีดวัคซีนในอดีตที่วัคซีนมีไม่เพียง พอ (เช่น การรณรงค์ฉีดวัคซีนโปลิโอ และวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า) การฉีดเข้าชั้นผิวหนังถึงแม้ว่าจะใช้วัคซีนในปริมาณไม่ มากก็ตามแต่วัคซีนสามารถกระตุ้นภูมิต้านทานต่อโรคได้สูงเช่นกัน และจากการวิจัยการฉีดวัคซีนจีนนีโอสเข้าชั้นผิวหนัง โครงการหนึ่งแสดงว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นภูมิต้านทานได้เท่ากับการฉีดวัคซีนเข้าใต้ผิวหนังตามปกติ แต่ปัญหาเกี่ยวกับ การฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังคือผู้ฉีดต้องมีความชำนาญเพราะเป็นเทคนิคการฉีดวัคซีนที่ไม่ค่อยใช้กันบ่อยนักและมีโอกาสที่ จะเกิดความผิดพลาดได้[4]
การอนุมัติสำหรับกรณีฉุกเฉินให้ใช้วัคซีนจีนนีโอสด้วยการฉีดเข้าชั้นผิวหนังนี้สำหรับคนที่อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น ส่วนผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี การฉีดวัคซีนจีนนีโอสภายใต้การใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉินก็ยังคงเป็นการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง (subcutaneous vaccination) จำนวน 2 เข็มตามปกติ
ผู้เชี่ยวชาญบางคนไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังเพราะมีหลักฐานที่สนับสนุนจากการวิจัยเพียงโครงการเดียว แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญหลายคนคิดว่าการฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังและฉีดสองเข็มดีกว่าการฉีดวัคซีนเข้าใต้ผิวหนัง เพียงเข็มแรกเท่านั้นและยืดการฉีดวัคซีนเข็มที่สองออกไปก่อนดังที่บางพื้นที่ทำอยู่ในขณะนี้ เพราะการฉีดวัคซีนเพียงเข็ม เดียวนั้นภูมิต้านทานที่กระตุ้นได้ยังไม่สูงพอ ในเวลาเดียวกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกากำลังพัฒนา แผนการวิจัยทางคลินิกเพื่อพิสูจน์ประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังที่ฉีดสองเข็มห่างกันสี่อาทิตย์ และคาดว่าจะรู้ ผลการวิจัยในช่วงปลายปีนี้[5]
ภายในสอง-สามเดือนข้างหน้าวัคซีนจีนนีโอสคงมีไม่เพียงพอสำหรับคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดฝีดาษลิง ดังนั้นมาตราการ ฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังจึงเป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเลือกใช้ ส่วนอีกยุทธศาสตร์ที่เน้นการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ แก่คนจำนวนมากที่สุดไว้ก่อนและเลื่อนการฉีดวัคซีนเข็มที่สองให้นานขึ้นอีกนั้นเป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลสหรัฐไม่เห็นด้วย องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริการะบุในการแถลงข่าวว่าเนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่สนับสนุนว่าการฉีดวัคซีนจีนนีโอส เพียงเข็มเดียวจะสามารถป้องกันฝีดาษลิงได้อย่างยาวนานซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการควบคุมการระบาดของฝีดาษลิง
__________
[1] รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้สั่งซื้อวัคซีนจีนนีโอสจำนวนมากจากบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก (Bavarian Nordic) แต่วัคซีนที่สั่งซื้อถูกเก็บไว้ในถุงพลาสติก ขนาดใหญ่ซึ่งจะต้องบรรจุวัคซีนในหลอดแก้วเพื่อใช้สำหรับฉีดให้แก่คนต่อไป ซึ่งกระบวนการนี้รวมถึงการบรรจุวัคซีนในหลอดแก้วขนาดเล็ก ปิดจุก หลอดแก้ว และติดฉลากกำกับ ฯลฯ ซึ่งแต่เดิมบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก ส่งวัคซีนที่เก็บในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ให้อีกบริษัทหนึ่งทำการบรรจุในหลอด แก้ว และในขณะนี้บริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก กำลังติดตั้งเครื่องมือของบริษัทเองสำหรับบรรจุวัคซีนในหลอดแก้ว แต่จะต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือนจึงจะ พร้อมใช้งานได้ ในขณะเดียวกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังหาบริษัทอื่นที่จะสามารถบรรจุวัคซีนในหลอดแก้วสำหรับใช้งานต่อไปด้วย จาก U.S. Could Have Had Many More Doses of Monkeypox Vaccine This Year โดย Sharon LaFraniere, Noah Weiland และ Joseph Goldstein เมื่อ 3 สิงหาคม 2565 ใน https://www.nytimes.com/2022/08/03/us/politics/monkeypox-vaccine-doses-us.html
[2] ACAM2000 needs full review before being used against monkeypox โดย Caitlin Rivers และ Tom Inglesby เมื่อ 11 สิงหาคม 2565 ใน https://www.statnews.com/2022/08/11/acam2000-full-fda-review-before-widespread-use-against-monkeypox/
[3] Fauci Explains Why Smallpox Vaccine ACAM2000 Isn’t Being Used for Monkeypox เมื่อ 7 สิงหาคม 2565 ใน https://www.newstimes.com.ng/fauci-explains-why-smallpox-vaccine-acam2000-isnt-being-used-for-monkeypox/
[4] U.S. moves to stretch out supplies of monkeypox vaccine โดย Helen Branswell เมื่อ 9 สิงหาคม 2565 ใน https://www.statnews.com/2022/08/09/u-s-moves-to-stretch-out-supplies-of-monkeypox-vaccine/
[5] U.S. Moves to Stretch Out Monkeypox Vaccine Supply โดย Sharon LaFraniere และ Noah Weiland เมื่อ 8 สิงหาคม 2565 ใน https://www.nytimes.com/2022/08/08/us/politics/monkeypox-vaccine.html