บทความโดย อุดม ลิขิตวรรณวุฒิ

การประชุมแบบเสมือนที่จัดโดยองค์การเอแวค (AVAC) เมื่อต้นปีคศ. 2022 เป็นการประชุมเพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การป้องกันเอชไอวีได้แสดงความคิดเห็นต่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ นโยบายที่เกี่ยวข้อง และการ รณรงค์เพื่อให้เห็นแนวทางเกี่ยวกับการป้องกันเอชไอวีและความเสมอภาคเกี่ยวกับสุขภาพของโลกในปี 2022

ผู้ร่วมเสวนาในการประชุมเสมือนได้แก่ศาสตราจารย์ พญ. ลินดา-เกล เบคเกอร์ (Prof. Linda-Gail Bekker) ผู้อำนวยการ ศูนย์เอชไอวีเดสมอนด์ ตูตู (Desmond Tutu HIV center) และคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคปเทาว์น ประเทศ อาฟริกาใต้ (Department of Medicine, University of Cape Town, South Africa) เกรซ คุมเวนดา (Grace Kumwenda) จากสถาบันแพคคาเชร์เพื่อสุขภาพและการพัฒนาการสื่อสาร (Pakachere Institute of Health and Development Communication) ประเทศมาลาวี เคนเนธ เวฮองเกย์ (Kenneth Mwehonge) ผู้อำนวยการแนวร่วมเพื่อ ส่งเสริมสุขภาพและการพัฒนาสังคม (Coalition for Health Promotion and Social Development) ประเทศอูแกนดา และ พญ. ราเชล แบกลีย์ (Dr. Rachel Baggaley) จากองค์การอนามัยโลก และดำเนินรายการโดยมิทแชล วอร์เร็น (Mitchell Warren) ผู้อำนวยการองค์การเอแวค

มิทแชล วอร์เร็น เริ่มด้วยการเกริ่นว่าเมื่อเอ่ยถึงการวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันเอชไอวีแล้วไม่มีอะไรง่ายหรือตรงไปตรงมาเลย ในขณะที่วงการตื่นเต้นเกี่ยวกับเพร็พที่ออกฤทธิ์นาน แต่การวิจัยเลนาคาพาเวียร์ (lenacapavir) เพร็พชนิดฉีดที่มีผลยาว 6 เดือน และการวิจัยอิสลาทราเวียร์ (islatravir) ยากินที่ออกฤทธิ์นานหนึ่งเดือนถูกหยุดชั่วคราวในปลายปี 2021 ด้วยเหตุผล ต่างกัน นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่ต้องช่วยกันรณรงค์เกี่ยวกับห่วงครอบช่องคลอดดาพิวิรีน (Dapivirin vaginal ring) และยา ฉีดคาร์โบเทกราเวียร์ (injectable cabotegravir) ที่เพิ่งได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาให้ใช้ สำหรับป้องกันเอชไอวีก่อนการสัมผัสเชื้อ (เพร็พ) แต่หากว่าในอนาคตเรายังไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น ไม่มีวัคซีนป้องกันเอชไอวี ไม่มีแอนติบอดี้ เราก็จะไม่มีการแก้ไขปัญหาที่ครอบคลุมอย่างแท้จริงที่จำเป็นสำหรับการยุติโรคระบาดนี้ เวที เสวนานี้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของการวิจัย นโยบายและการรณรงค์เพื่อวางแผนสำหรับทำงานร่วมกันเพื่อรณรงค์เกี่ยว กับปัญหาสุขภาพระดับโลก

โดยรวมแล้วประเด็นหลักของการเสวนาได้แก่

ให้ความสำคัญระดับแรกๆ ให้แก่การนำเอาการป้องกันเอชไอวีที่มีอยู่ไปขยายผลใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เร็วขึ้น และฉลาดกว่าที่ผ่านมา

ศ. ลินดา-เกล เบคเกอร์ แนะนำว่าแทนที่มัวแต่กังวลหรือหวังว่าเราจะมีสิ่งอื่นที่ดีกว่านี้ เราควรทำอะไรบางอย่างเพื่อเอาสิ่งที่ เรามีอยู่ในขณะนี้เช่นเพร็พชนิดกินไปขยายผลใช้เลยเพราะมันเป็นสิ่งที่เรามีอยู่แล้วและเราสามารถใช้มันได้เลย เพร็พชนิด กินมีผลดีมากในประชากรทุกกลุ่มหากว่านำไปใช้อย่างถูกต้อง และหากว่าเราใช้มันไม่ถูกต้องเราต้องแก้ไขทำให้ถูกต้อง

เกรซ คุมเวนดา เสริมว่าในปัจจุบันหลายประเทศได้นำเอาเพร็พชนิดกินไปขยายผลใช้แล้ว แต่ยังมีนโยบายบางอย่าง หรือ คอคอดบางจุดที่กีดกันทำให้การขยายผลใช้ไม่ได้ผลเต็มที่ เราจำเป็นที่จะต้องมองในระดับประเทศ และพิจารณาประเด็น เหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่มีอยู่แล้วในประเทศนั้นถูกนำไปขยายผลใช้จริง

ออกแบบโปรแกรมเกี่ยวกับทางเลือกเพื่อเพิ่มทางเลือกในการป้องกันเอชไอวีให้มากขึ้นสำหรับผู้หญิงรวมถึงห่วงครอบ ช่องคลอดดาพิวิรีน

พญ. แบกลีย์ รู้สึกผิดหวังที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาจะไม่พิจารณาอนุมัติห่วงครอบช่องคลอดดาพิวิรีน สำหรับใช้ในอเมริกา และแนะนำว่าชุมชนจำเป็นที่จะต้องบอกให้องค์การอาหารและยารู้ว่าผู้หญิงชาวอเมริกันรู้สึกผิดหวัง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนผู้หญิงในภูมิภาคอื่นของโลกไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ดังนั้นหากเราต้องการให้ผลิตภัณฑ์นี้มีให้ผู้หญิงใช้ เรา ต้องเข้าใจว่าผู้หญิงต้องการให้บริการที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้เป็นอย่างไร และเราจะสามารถทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ที่มีความ ปลอดภัยและง่ายต่อการใช้มีพร้อมสำหรับคนที่ต้องการใช้ได้อย่างไร

เมื่อคำนึงถึงการออกแบบโปรแกรมสำหรับทางเลือก เกรซ คุมเวนดา คิดว่าเป็นการสร้างระบบสุขภาพเพื่อตอบสนองต่อ ความจำเป็นเกี่ยวกับการป้องกันของแต่ละบุคคลและเกี่ยวกับความชอบของแต่ละคนรวมถึงวิถีชีวิตของแต่ละคนด้วย เธอ ไม่ต้องการอยู่ในสภาพที่ต้องใช้การป้องกันวิธีหนึ่งเพียงเพราะว่ามันเป็นวิธีการป้องกันอย่างเดียวที่มีอยู่ และเธอต้องการที่ จะตัดสินใจได้ว่าการป้องกันนี้เป็นสิ่งที่เธอรู้สึกสบายใจที่จะใช้มันเพราะเธอเชื่อว่าจะสามารถใช้มันได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอและเธอจะสามารถใช้มันได้เพราะว่าเธอเป็นคนตัดสินใจเลือกใช้มันเองและมันสอดคล้องกับวิถีชีวิตของเธอ ซึ่ง ในที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีทางเลือกต่างๆ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำให้มั่นใจว่าเรามีเครื่องมือป้องกันที่จำเป็น ต่างๆไว้พร้อมสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือการป้องกันเหล่านั้น

กำหนดราคาคาโบเทกราเวียร์ชนิดฉีดที่ออกฤทธิ์นานในระดับที่เท่ากับเพร็พชนิดกิน

พญ. แบกลีย์ ย้ำว่าคาโบเทกราเวียร์ชนิดฉีดจะต้องมีราคาเท่ากับเพร็พชนิดกิน เราไม่ควรมีผลิตภัณฑ์ที่ราคาแพง อะไรที่ เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องของสหรัฐอเมริกา แต่ราคาสำหรับประเทศรายได้ต่ำและประเทศรายได้ปานกลางจะต้อง สมเหตุสมผล หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่ล้มเหลวตั้งแต่ตอนต้นแล้ว

ระดมกำลังและเรียกร้องต่อนักการเมืองเกี่ยวกับการลงทุนทางเศรษฐกิจเพื่อการวิจัยและพัฒนาการป้องกันเอชไอวี

เคนเนธ เวฮองเกย์ กล่าวว่าเราไม่สามารถหนีนักการเมืองไปได้เพราะนักการเมืองมีอำนาจทำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้ และ ประเด็นของการเสวนาครั้งนี้เกี่ยวกับความยั่งยืน ซึ่งเราจะไม่สามารถทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดต่อไปได้หากว่าเรา ไม่อุดช่องว่างระหว่างนักการเมืองกับนักรณรงค์ได้

ศ. ลินดา-เกล เบคเกอร์ อธิบายว่าเราจำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และเมื่อเรามีผู้กำกับดูแล้วจะต้องมี แนวทางปฏิบัติ เมื่อมีแนวทางปฏิบัติแล้วจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์นั้นในคลินิก ซึ่งมันจะเกิดขึ้นไม่ได้หากว่าไม่มีคนใดคนหนึ่ง บรรจุมันไว้ในงบประมาณเมื่อสองปีที่ผ่านมาแล้ว เพราะเรารู้แล้วว่ารัฐมนตรีกำหนดงบประมาณเป็นเวลาสองปีล่วงหน้า ดัง นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราจะต้องพร้อมและเข้าใจดีในสิ่งที่เราต้องการเพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถอธิบายให้ผู้ที่รับผิด ชอบรู้เกี่ยวกับประเด็นที่เรากำลังผลักดัน

เพิ่มความเท่าเทียมกันในการตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุมัติและกำกับควบคุม

พญ. แบกลีย์ กล่าวว่าความเท่าเทียมกันไม่ถูกจำกัดอยู่แต่เฉพาะเมื่อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ยา หรือวัคซีนเท่าน้ัน แต่การให้ ข้อมูลที่เกี่ยวกับการกำกับควบคุมควรมีความเท่าเทียมกันด้วย เกรซ คุมเวนดา เพิ่มเติมว่าในฐานะชุมชนแล้ว ชุมชนควรมีเสียงในการตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุมัติและกำกับควบคุมด้วย เพราะว่าบริบทควรมีความสำคัญด้วย การตัดสินใจ (อนุมัติ) ห่วงครอบช่องคลอดดาพิวิรีนในสหรัฐอเมริกาไม่ควรมีผลกระ ทบต่อการอนุมัติในอาฟริกาเพราะการตัดสินใจในสหรัฐอเมริกาไม่ได้คำนึงถึงบริบทในอาฟริกา การตัดสินใจ (เกี่ยวกับ การอนุมัติ) ควรขึ้นอยู่กับความจำเป็นของเราและความเป็นอิสระของหน่วยงานเกี่ยวกับการอนุมัติของเรา การวิจัย (เกี่ยว กับห่วงครอบช่องคลอดดาพิวิรีน) เกิดในสังคมเรา ดังนั้นการตัดสินใจอนุมัติควรขึ้นอยู่กับผลที่ได้จากการวิจัยนั้นด้วย

เอาบทเรียนจากโควิดไปประยุกต์ใช้กับการป้องกันเอชไอวี

ศ. ลินดา-เกล เบคเกอร์ แสดงความเห็นว่าโควิดแสดงให้เห็นว่าเราสามารถทำอะไรบางอย่างได้หากว่าเราทุ่มเงิน ความมุ่ง มั่นทางการเมืองที่เพียงพอ และความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ให้แก่สิ่งที่เราทำ เราสามารถผลักภูเขาให้ขยับได้ เราน่า จะใช้บทเรียนบางอย่างจากโควิดไปใช้กับเอชไอวีได้ และควรรวมถึงวัณโรคและมาเลเรียด้วยหรือไม่ เราจะสามารถอัด พลังงานและความกระตือรือร้นเช่นนี้ได้หรือไม่ เราจะสามารถเติมพลังงานใหม่ให้แก่วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเอชไอวีและ วัณโรคที่มีอยู่แล้วได้หรือไม่ เพื่อสร้างทางเลือกต่างๆเพิ่มขึ้นในช่วงชีวิตเรา

มิทแชล วอร์เร็น เสริมว่าสิ่งที่ทำให้เราตระหนักอยู่เสมอคือเราออกแบบผลิตภัณฑ์เหล่านี้โดยยึดเอาเชื้อโรคเป็นศูนย์กลาง ซึ่งนั้นเป็นวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาวัคซีนหรือยาต้านไวรัส แต่เราต้องออกแบบโปรแกรมโดยยึดเอาคนเป็นศูนย์กลาง และนี้เป็นความล้มเหลวของเรา

ข้อเสนอแนะสำหรับผู้กำหนดนโยบาย

ในการเสวนาผู้ร่วมเสวนามีสาสน์สำหรับผู้นำของโครงการเพฟฟาร์ (PEPFAR) ดังนี้:

เกรซ คุมเวนดา แนะนำว่า

1) ให้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง เราต้องการให้ชุมชนมีส่วนเกี่ยวข้องและร่วมในการทำงานใน ลักษณะที่ชุมชนเป็นคนสร้างวิธีการแก้ไขปัญหาและชุมชนนำเอาวิธีการแก้ปัญหานั้นไปปฏิบัติ

2) ต้องแน่ใจว่าเราทำงานเสริมต่อจากผลสำเร็จที่มีอยู่แล้ว สิ่งที่เราประสบความสำเร็จมีมากมาย ตัวอย่างคือกลุ่มประชากร หลักที่เราได้ทำอะไรไปแล้วมากมายและมีความก้าวหน้ามากทีเดียวซึ่งเราควรเสริมต่องานต่างๆที่เราได้ทำไปแล้วและไม่ ควรปล่อยให้สิ่งที่ได้มาสูญเปล่าไป

3)  อย่าทอดทิ้งพื้นที่ภูมิศาสตร์และกลุ่มประชากรใดใด

4)   ลงทุนสำหรับการขยายผลของเพร็พชนิดกิน   รวมทั้งการลงทุนสำหรับเทคโนโลยี่ใหม่ๆที่กำลังจะมาถึง

สำหรับ ศ. ลินดา-เกล เบคเกอร์ นั้น สิ่งที่ต้องการบอกให้แก่ผู้นำคนใหม่ของเพฟฟาร์คือนักรณรงค์จะคอยหนุนหลังให้การ สนับสนุนกับเขา และเขามีพันธมิตรอยู่ในพื้นที่ พวกเราต้องการสนับสนุนเขา แต่เขาต้องนำภาคีใหม่ๆเข้ามาร่วมทำงาน ด้วยและเขาต้องไม่ลืมชุมชนซึ่งเป็นคนสนับสนุนสำคัญของเขาและรณรงค์เพื่อเขาด้วย

พญ. แบกลีย์ หวังว่าผู้นำคนใหม่จะสามารถเร่งงานได้ทันทีที่เท้าแตะพื้นและเขาจะสนับสนุนการป้องกันเอชไอวีอย่างมหาศาลด้วย สาสน์ของ เคนเนธ เวฮองเกย์ สำหรับผู้นำของเพฟฟาร์คือเรียนรู้จากโควิด คอยทำให้ผู้คนมีความสนใจ ทำให้ผู้คนคอยดู คอยฟังเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นและนำสิ่งที่เกิดขึ้นไปขยายผลใช้ในประชากรกลุ่มนั้น

สามารถดูบันทึกของการเสวนานี้ได้ที่:

https://www.avac.org/event/ups-downs-field-setting-agenda-together-hiv-prevention-2022